5 รถประหยัดน้ำมัน ปี 2024 พร้อมแชร์ทริคประหยัดน้ำมัน

รถประหยัดน้ำ ราคาน้ำมันกลับมาพุ่งสูงขึ้นเป็นสองเท่า หลังจากช่วงโควิดที่ผ่านมาราคาน้ำมันก็ลดลงอย่างมาก ทำให้ต้องคิดหนักก่อนจะเดินทางไปไหน โดยเฉพาะตอนนี้ราคาน้ำมันกลับมาแพงกว่าเดิมแล้ว การซื้อและมองหารถจากอดีตที่เน้นการออกแบบที่หรูหรา แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางการเงินของตนเอง ในปัจจุบันนี้หลายๆ คนกำลังมองหารถยนต์ที่ประหยัดน้ำมัน แม้ว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ออกมาเป็นตัวแทนแล้วก็ตาม แต่ด้วยเวลาในการชาร์จยังใช้เวลานาน ดังนั้นการเลือกใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินจึงยังคงเป็นทางเลือกที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดในเวลานี้ Toyota

แน่นอนว่าราคาน้ำมันสูงมาก หากต้องซื้อรถที่กินน้ำมันมาก การสตาร์ทหนึ่งครั้งใช้เชื้อเพลิงหนึ่งลิตร รับรองมีสิทธิที่จะล้มละลายได้อย่างสมบูรณ์ นักออกแบบรถยนต์ชั้นนำต่างแข่งขันกันเพื่อคิดค้นรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงขึ้น เรียกได้ว่าเทียบได้กับการใช้พลังงานไฟฟ้าเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการซื้อรถยนต์สำหรับคนยุคใหม่ อะไรที่สะดวกและประหยัดก็ถือว่าสำคัญในการตัดสินใจออกรถใหม่ออกมาใช้งาน บทความนี้จะรวมเคล็ดลับการขับรถให้ประหยัดน้ำมัน รวมถึงรถรุ่นไหน? ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูงสุดในปี 2023 อ่านด้านล่าง รถยนต์ไฟฟ้า

Suzuki Swift

กล่าวได้ว่าบริษัทรถยนต์ซูซูกิเป็นเพียงบริษัทรถยนต์ทางเลือกในอดีตเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับความนิยมเฉพาะในกลุ่มแคบ ๆ เท่านั้น แต่นับตั้งแต่ Suzuki เปิดตัว Small Swallow หรือ Swift เรียกได้ว่าสามารถครองใจนักขับรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว รถยนต์ไฟฟ้า

ด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสวยงาม และขนาดกระทัดรัด เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองใหญ่ที่มีตรอกซอกซอยมากมายทั่วทุกมุม ที่สำคัญอัตราการประหยัดน้ำมันของนกนางแอ่นตัวน้อยนั้นขึ้นชื่อ ประหยัดพลังงานและคุ้มค่าที่สุด จนทุกหน่วยงาน จัดอันดับให้เป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในเวลานี้ อัตราการประหยัดน้ำมันของ Suzuki Swift อยู่ที่ 23 กม./ลิตร และยังสามารถใช้น้ำมัน E20 ราคาถูกได้อีกด้วย

Honda City e:HEV

อีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์ยักษ์ใหญ่ที่ครองใจนักขับชาวไทยมายาวนาน กับบริษัทรถยนต์ฮอนด้าที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการออกแบบยานยนต์มาทุกยุคสมัย แม้ว่าฮอนด้าจะไม่เข้าสู่วงการรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังในปี 2566 แต่ฮอนด้ายังคงออกแบบทางเลือกที่เป็นมิตรและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นั่นคือ ฮอนด้า ซิตี้ e:HEV ซึ่งถือเป็นการผสมผสานระหว่างรถยนต์ไฟฟ้าระดับตำนานในรุ่น C.

ซิตี้ผสมผสานกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์สมัยใหม่ เช่น e:HEV ซึ่งใช้พลังงานน้ำมันเบนซินควบคู่กับพลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากการแปลงพลังงานในขณะที่รถใช้พลังงานไฟฟ้าการมาถึงของเมืองใหม่นี้ถือเป็นสุดยอดเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการด้านสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Honda City e:HEV เพียง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร Toyota

Toyota Yaris Ativ

มีฮอนด้าก็ต้องมีโตโยต้า สิงโตสองตัวแห่งโลกยานยนต์ที่ไม่เห็นด้วยซึ่งกันและกัน เมื่อฮอนด้าส่ง City e:HEV ลงสนาม โตโยต้าก็ไม่รอช้าที่จะส่ง Toyota Yaris Ativ มาเป็นเรื่องราวในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน ปกป้องสิ่งแวดล้อมพร้อมกับการออกแบบที่ทันสมัยและทันสมัย

มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจึงน้อยมาก รวมถึงระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ช่วยให้ทุกจังหวะการเร่งความเร็วไม่กินน้ำมันมากเกินไป ยิ่งขับไกลก็ยิ่งประหยัด โดยไม่จำเป็นต้องดึงรถยนต์ไฟฟ้าออกมาหรือเลือกรถยนต์ e:HEV ที่มีค่าบำรุงรักษาสูง Toyota Yaris Ativ ก็ตอบโจทย์การประหยัดพลังงานของคุณได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเพียง 26 กิโลเมตร/ลิตรเท่านั้น

Nissan Kicks e-POWER

รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเบนซินคันแรกที่ปล่อยออกมาและควบคุมโดยผู้ขับขี่ Nissan Kicks e-POWER ถือเป็นนวัตกรรมที่โดดเด่นที่สร้างแบบอย่างสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันทั้งหมด Nissan Kicks e -POWER เป็นรถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่มีขนาดเครื่องยนต์เพียง 1.2 ลิตร และมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่สูงมากถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ว่ากันว่ามีความประหยัดน้ำมันมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบอื่นๆ ทำให้ Kicks กลายเป็นรถยนต์ที่ครองใจผู้ขับขี่รุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่านิสสันจะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในฝั่งรถยนต์ไปนานแล้วก็ตาม เพราะ Kicks เป็นคนที่ตอบทุกคำถามเรื่องความคุ้มค่าได้ครบถ้วน

BMW 330e M Sport

รู้จักกันในชื่อ BMW ทุกคนคงรู้สึกหวาดกลัวกับรถยนต์ทรงพลังของยุโรปที่มีชื่อเสียงในเรื่องการประหยัดน้ำมันมาก แต่นั่นเป็นเรื่องราวของอดีตที่เป็นเพียงตำนาน เพราะเยอรมนีเป็นประเทศแห่งนวัตกรรมที่สร้างเครื่องยนต์ใหม่ที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ BMW 330e M Sport รถยนต์หรูหราที่ประหยัดพลังงานอย่างสุดๆ

BMW 330e M Sport มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า หลายๆ คนเห็นขนาดตัวเครื่องแล้วแอบเหงื่อออกนิดหน่อยไม่ว่าจะใช้น้ำมันเยอะหรือไม่ก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว BMW 330e M Sport มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่สูงมาก ข้อมูลจากโรงงานระบุว่า รถรุ่นนี้ใช้น้ำมันเพียง 41 กิโลเมตรต่อลิตร ทั้งหรูหราและประหยัดสุดๆ รถประหยัดน้ำ

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • ล้าง 4 ความเชื่อผิดๆ เวลาที่จะเลือกซื้อรถยนต์มือสอง
  • ประเภทรถยนต์ ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม
  • คุ้มกับเงินหรือไม่ | Toyota BZ4X Review